วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2559

รสชาติของต้นไม้

                สวัสดีจ่ะ กลับมาอีกครั้งหลังจากห่างไปนานกับการเขียนบล็อก มาดามลีตัวเล็กๆ ไม่ได้หยุดนิ่งที่จะแสวงหาของกินใหม่ๆมาแนะนำให้กลับทุกคน ลียังคง กิน กิน กิน และ กิน อย่างต่อเนื่อง และวันนี้ลีมาอย่างผู้ดี เงียบๆ เนียบๆ นิ่งๆ ชิลๆ ประนึงว่าจิบชาซีลอนยามบ่ายแก่ๆเคล้าคุกกี้เนยหอมกรุ่น...
            เข้าเรื่อง ที่มาของร้านนี้คือ ครั้งนึงลีและเพื่อนผองชาวแก๊งเคยได้รับใบปลิวแจกตอนเปิดร้านนี้เพิ่งเปิดร้านใหม่ๆ แต่ชาวแก๊งของลีไม่ได้สนใจมากมาย มันจุดใต้ตำต่อมาค่ะที่รัก แต่แล้ววันหนึ่งพี่ที่ออฟฟิศของลีได้เผยแพร่อารยธรรมการกินแด่ชาวออฟฟิศ หน้าที่ของลีคือ ไปลองค่ะ ที่ว่าจุดใต้ตำต่อก็เพราะร้านอยู่หลังออฟฟิศของลีเท่านั้นเอง!! คุณพระ...ของดีๆมีอยู่ใกล้ตัว เหตุใดถึงไปตามล่าหาสิ่งที่อยู่ไกลแสนไกล (เอามือทาบอก) วิธีเดินทางคือ BTS ลงสถานี วงเวียนใหญ่ เลยจ่ะ ออกจากทางออกที่ 3 เดินย้อนมาทางกรุงธนบุรี จะเห็นเซเว่นใหญ่ๆติดริมถนน ข้างๆจะมีซอยเลี้ยวเข้าไปตามซอย แล้วเลี้ยวข้าว เดินมาประมาณ 30 เมตร จะเห็น PURE Clinic ร้านจะอยู่ติดกลับคลินิคเลยนะ





            ร้านชื่อว่า “Taste of Trees” ลักษณะของร้าน จะเป็นบ้านเล็กๆ มีต้นหญ้าต้นไม้ไม่เยอะนะ แต่ก็ระดับนึงอ่า หน้าร้านจะจัดเหมือนเป็นสวนนั่งเล่นชิลๆ มีโต๊ะตั้งอยู่ 3 ชุด ร้านจะเน้นสีน้ำตาลและไม้เป็นหลัก ร้านไม่ทึบนะคะ เพราะติดกระจกใสแทบทั้งร้านเลย เข้าไปในร้าน จะมีที่นั่งโซนหน้าร้านอยู่ 2 ที่ บอกก่อนเลยค่ะ ว่าร้านเล็ก เหมาะสำหรับซื้อกลับไปทาน หรือนั่งชิลๆแค่คน 2 คน อย่า ยกขโยงกันมา 5-6 คน เพราะร้านมีพื้นที่จำกัดมากค่ะ







มาต่อ!!! หน้าร้านอย่างที่บอกไปว่ามีที่นั่งเพียง 2 โต๊ะ ซ้ายตัว ขวา ตัว และมีที่เค้าว์เตอร์บาร์สำหรับประมาณ 4 ที่อยู่ด้านซ้ายในสุดของร้าน ด้านขวาสุด จะมีมุมสวยๆอยู่ เน้นโทนเขียวๆครีม ดูอุ่นๆ มีใบไม้ใบหญ้าประดับตกแต่งร้าน ด้านนั้นลีสังเกตุว่าเจ้าของร้านมุงหลังคาแบบโปร่งแสง ทำให้กลางวันมีแสงเข้าร้านโดยไม่ต้องเปิดไฟเลย บวกกลับร้านแต่งโทนสว่างขนาดนี้ เหมาะกับการถ่ายรูปไปเป็นรูปโปรไฟล์ Facebook จริงๆ



เอาหน้าตาของเมนูของร้านมาให้ดูก่อน จะว่าไปร้านมีเมนูอาหารไม่มาก แต่เครื่องดื่มเยอะ ราคาจะถือว่าสูงก็ว่าได้สำหรับบางเมนู เพราะลีเทียบกับ Amazon ที่อยู่ในเลทมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆหาซื้อได้อย่างไม่เดือนร้อน นอกจากเครื่องดื่มจำพวกชากาแฟแล้ว ทางร้านก็มีเครื่องดื่มแอลกอฮอร์จำหน่ายด้วยนะ เลิกงานแล้วใครอยากก๊งก็เอาเลยจ้า


(สั่นไปไหน)


คือจุดพีคของร้านนี้ที่ว่าราคาสูงใช่มะ ทางร้านเลยจัดเป็นชุดๆเอาไว้ให้เลือกกินซึ่ง เห้ย!!! แก มันคุ้มกว่าจริงๆนะ เพราะปกติเวลาลีไปกินอ่า ก็สั่งเป็นชุดมาแล้วเอามาแชร์กันกิน อ่ะ ยกตัวอย่างในรูปเลยแก เซ็ต C จะเลือกเป็น Pasta Olive Chill หรือ Carbonara คู่กับเครื่องดื่ม Vergin Mojito , Honey lemon , Lemon Tea เลือกมาสักเมนูอ่ะ คือปกติ Pasta ราคามัน 200 กว่าแล้ว เครื่องดื่มนี่ก็เลท 80 บาท อัพอ่าแก ถ้าซื้อแกมันก็เกือบ 300 แล้วใช่ปะ แต่เซ็ตนี้สงวนราคาอยู่ที่ 219 บาท ลดไปหลายบาทเลยล่ะ แนะนำนะจ๊ะ ถ้าจะมากินจริงจัง เป็นเซ็ตเถอะแก คุ้มกว่า มันอาจจะมีทางเลือกน้อยแต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดนา...


เอาเมนูเครื่องดื่มมาให้เชยชมกันก่อนประกอบการตัดสินใจ... เมนูแรก ผลพวงจากการซื้อเป็นเซ็ต Honey Lemon จะบอกว่าเปรี้ยว Lemon มากกกกก คือรู้เลยว่าร้านนี้ใช้วัตถุดิบดี แต่คือบับ แก ฉันคนไม่กินเปรี้ยวเว้ย เปรี้ยวตาปิดเลยจ้าแก แต่เราจะได้เห็นความ Nice ของพนักงานร้านนี้ “เขาจะถามเสมอว่าอาหารเป็นยังไงบ้างคะ” “รสชาติถูกปากไหม” “ต้องปรับอะไรหรือเปล่า” คือเราเลยบอกเขาได้ว่าแบบมันเปรี้ยวไปนะ เขาจะปรับรสชาติให้ให้เดี๋ยวนั้นเลยแก คือแบบ ดีย์ เหวยยยย  แต่สุดท้ายก็ยังเปรี้ยวอยู่ดีอ่ะ ฮ่าๆๆ ไม่ว่ากันเพราะเปรี้ยวของเราอาจจะพอดีคนอื่นก็ได้นะ แต่สิ่งที่ขอติงนิดนึงคือด้วยความเป็น Honey Lemon แต่เราไม่ค่อยได้กลิ่นน้ำผึ้งเลย เราอยากให้เพิ่มน้ำผึ้งนิดนึงจริงๆนะ


เครื่องดื่มต่อมาคือ Lemon Tea เราส่งสายสืบไปสืบกรรมวิธีมาละ หึๆๆ ปกติมาดามลีไม่กินกาแฟอยู่แล้ว แต่ฉันเป็นคอชานะ!!! ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าถ้าวันนั้นฉันไม่ได้กินชา!!! อะเฮือก ...คือชามะนาว คือชามะนาวจริงๆแก บ้างร้านฉันไปกินนะเว้ยคือชาลิปตันดีๆนี่เอง นี่ฉันเสียเงินให้กับอะไรเหรอ? แต่ร้านนี้ชาคือชา มะนาวคือมะนาว ความหอมของชาซีลอนมันคลุ้งในปากมากแก ทางร้านจะผสมต่างหากแล้วค่อยเทลงแก้วเสิร์ฟ รสมันค่อนข้างแบบดีย์เลยแก ไม่หวานไป ไม่เปรี้ยวไปด้วย อันนี้ฉันรักเลย


แก้วต่อมาคือโกโก้ รถชาละมุนมากเว้ยอันนี้ เขาชงโกโก้ได้เนียนมาก หาอยากมากนะเว้ย เพราะบางร้านไปกินอ่ะ โกโก้เป็นก้อนอยู่เลย หรือไม่กลิ่นโกโก้ก็แบบอับๆหน่อย แรงสุดคือ ใส่โกโก้มานิดเดียว คือจะหวงทำห่าอะไร!!! ร้านนี้คือโกโก้ได้น้ำได้เนื้อดีมากเลยเว้ย คือสัดส่วนระหว่างโกโก้ นม น้ำ มันอยู่ในอัตตราส่วนที่พอดี ไม่ขมเกินไป หรือไม่ใสเกินไป แถมมีการตกแต่งแก้วเพื่อความฟรุ้งฟริ้งด้วยนะ


มาเริ่มจากหลักกันเลยดีกว่า เรียกน้ำย่อยด้วยสลัด คือมีความผิดพลาดเกิดขึ้นจากการสื่อสารระหว่างพนักงานกับเชฟ ฮ่าๆๆ แก๊งของลีสั่งเป็น ซีซาร์ สลัดไป แต่ตอนเซิร์ฟกลับได้ Tofu Shimaji Salad มา โอ้วมายก๊อด ก็ต้องกินอ่ะค่ะ...ตอนนั้นก็รู้สึกเฟลอ่านะ แต่บับ รสชาติก็ไม่ได้แย่ มันจะความเผ็ดร้อนของพริกไทย ความเปรี้ยวของน้ำส้มสายชู และมีเต้าหู้โปะหน้าอยู่ 4 แผ่น มีเห็นออรินจิเล็กๆ เคล้ากับผักสลัด คือมาดามว่ามันแก้เลี่ยนได้ดีเลยล่ะ


เดี๋ยวจะว่าอย่างงั้นอย่างี้ นี่มีก๊อก 2 นะ เราสั่งซีซาร์อีกรอบ ได้ค่ะ!!!  เราไม่นกนะคะเรื่องกิน มันดีย์มากอ่ะแก สลัดเหรอ เปล่า เบคอน คือบับ เขากิลล์ดีมากเลย กรอบหอม ฉันลืมแคลอลี่ไปเลย เออ พูดถึงสลัดมาตั้งนาน ผักเขาก็สดนะ ดูท่าจะออแกร์นิกซะด้วย สมกับราคาเลย


มา!! เข้าสู่จานหลักดีกว่า เริ่มต้นด้วยซุปคล่องๆคอ อะไรนะแก ซุปผักโขมค่ะ มันโอเคเลยเว้ย คือผักโขมเยอะมาก และรสละมุมของครีมดีมากอ่ะ ปกติแล้วตามร้านทั่วไปเขาจะปันผักโขมจนละเอียดแล้วละเอียดอีก และกระหน่ำครีมเขาไปเวลาทำซุป รสมันเลยออกมาเป็นวิญญาณผักโขม แต่ร้านนี้ไม่เลย ฉันได้เจอตัวตนแห่งผักโขมแล้ว!!! และกินกับขนมปังอบที่โรยหน้ามานะโคตรเข้ากันเลย แต่เสียดายขนมปังน้อยไปหน่อย มีอีกสักปิ๊ปไหม - -?


เมื่อมีซุปผักโขมแล้ว เราก็ต้องมีผักโขมอบชีสสิ!! บอกเลยว่ารสชาติไม่ต่างกัน ให้อารมณ์แบบกินซุปผักโขมที่เพิ่มชีสแค่นั้นเอง อันนี้เสียดายมากยังตีโจทย์ไม่แตก ฮ่าาาา



อีกหนึ่งเมนูที่สร้างความประทับใจไม่น้อยแก่ชาวเราก็คือ...แซนวิชเห็ดชีสค่ะ โอ้วโห้วววว เอดอก ละมุนลิ้มมากค่ะ ขนมปังโฮลวีทปิ้งไฟอ่อนพอให้ได้กลิ่นไหม้ สอดไส้เห็นเห็ดแชมปิญองสไลด์บ้างกับเหล่าชีสทั้งหลาย แกมันดีเว้ยยยย มันหนักท้องดีเว้ย ฮ่าๆๆๆ ฉันชอบกลิ่นขนมปังเวลามันเกรียมนิดๆมันแบบให้อารมณ์เช้าๆดี แม้ว่าฉันจะกินมันในตอนเที่ยงก็ตาม - -



ของเด็ดมันอยู่ตรงนี้ค่ะ มะม่วง ถรุย!!! ไม่ใช่ สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า เว้ย อันนี้บอกเลย คือมันดีย์จริงๆ จากที่เคยเขียนไว้ตอนแรก ร้านที่พัทยา อันนั้นก็ดี แต่นี้ก็ดีอ่ะแก เลือกไม่ถูก คือ 2 ร้าน signature ไม่เหมือนกัน ร้านที่พัทยานั้นเขาจะเน้นไข่ชิปะ แต่ร้านนี้เว้ย ชีส เป็น ชีส จริงๆ มาเป็นดงชีส โอ้ยยยย ฉันรักชีสนางมากบอกเลย ฮ่าๆๆๆๆๆ (หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง) แล้วดูความยืดนะคะ โอ้ววโห้วววววว ลงมาไม่ถึง 5 นาที หมดค่ะ ลีคอนเฟิร์ม เพราะอะไรคะ เพราะลีแย่งแดกไม่ทันค่ะ!!!



สปาเก็ตตี้อีกจานที่ว่าเด็ดไม่น้อย คือ Pasta Olive Oil อันนี้ถ้าใครไม่ชอบความเลี่ยนของชีส เชิญเลยค่ะ เชิญ มีความเผ็ดเล็กๆของพริกปาปริก้าที่โรยมาข้างหน้า แถมเบคอนที่รมควันนะ หอมเข้าเนื้อเข้าหนังมากอ่ะแก



ของหวานปิดท้ายค่ะ ฮันนี่โทส บอกเลยว่า ไม่ผ่าน!!! ขนมปังเหนียวและแห้งมาก ร้านหวงเนยไปหน่อย เราเลยรู้สึกว่ามันไม่ค่อยชุ่มถ้าเทียบกับ After you หรือ Tost 2U ที่เราเคยกิน อันนั้นคือขนมปังเขามีความชุ่มข้างใน กรอบๆข้างนอก แต่ถ้าว่าด้วยเรื่องรสชาติของไอศครีม ก็ถือว่าใช้ได้ การจัดแต่งหน้าตา ลีว่าดีเลยนะ




อ่อแล้วถ้าใครกลัวว่าแบบ น้ำหมดแก้วแล้วอ่ะ เขาก็มีน้ำเปล่าที่ลอยด้วยเลมอนและใบมิ้นท์ตั้งเซิร์ฟอยู่นะ ไปกดเอาได้ตามใจชอบ อันนี้มาดามไม่ได้ถ่ายรูปมาอ่ะ แหะๆ
ส่วนอันนี้ของแถม เป็นชาชนิดต่างๆ ที่ทางร้านตั้งเอาไว้ ก็ไม่ได้ถามนะว่าชงกินฟรีได้หรือเปล่า ฮ่าๆๆๆ

(ชาอู่หลงกลิ่นกุหลาบ)

(น่าจะเป็นชากลิ่นส้ม+มะนาวปะ)

(ชากลิ่นลิ้นจี่)


คือองค์รวมแล้วร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ น้อยคนนักยากจะเข้าถึง แถมราคาค่อนข้างสูง แต่การบริการถือว่ายอดเยี่ยมเลยล่ะ ทางร้านค่อนข้างใส่ใจลูกค้าทุกๆคน คอยรับฟังความเห็นหรือปรับเปลี่ยนตลอดเวลา แต่ยอมใจเชฟร้านนี้ ร้านนี้มีเชฟคนเดียวที่ต้องทำทุกอย่างตั้งแต่สากเบือยันเรือรบ การทำของออกมาให้อร่อยและหน้าตาดูดีระดับโรงแรม เบื้องหลังเขาใช้เชฟไม่ต่ำกว่า 2 คน แน่นอน แต่ร้านนี้ทำทุกอย่างได้ด้วยเชฟคนเดียว อาหารอร่อย หน้าตาของอาหารดูดีและสะอาด คะแนนที่ให้คงเทใจเพราะสิ่งนี้ แต่ก็มีอีกบางเมนูที่ทางร้านอาจจะต้องปรับปรุงต่อไป ยังไงมาดามและชาวเราจะยังอุดหนุนอยู่บ่อยๆ เพราะไม่มีอะไรจะกิน ผิด!!! เพราะของเขาอร่อยจริงๆ วันนี้ มาดามลีขอให้คะแนน อยู่ที่ 8.5 ก่อนแล้วกันนาจา อย่างไร ใครที่อยู่ใกล้ไกลแถวนั้นอยากลองชิมก็แวะไปได้นะ แต่!! จงอย่าลืม ว่าร้านนี้ปิดวันจันทร์นาจา ขอตัวไปหาของกินละ บรัยยยยยย










วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

โปรดีรีวิวต่อ


โอไฮโยวววว อย่าเพิ่งด่าลีนะ กระแดะทักเป็นภาษาญี่ปุ่น ลีไม่ดราม่าๆ ของกินไม่เกี่ยวเนาะๆ T^T วันนี้ลีจะแนะนำอาหารญี่ปุ่นที่รสดีย์ให้ทุกคนไปลองชิมกัน คืองี้ๆ เรื่องมันอยู่ว่าพี่สาวมาดามไปเจอโปรของร้านนี้พอดี แล้วแบบ เห้ยยยย มันถูกเฟ่อร์ เลยลองชวนกันไปลอง บวกกับเสียงลือเสียงเล่าอ้างของพี่สาวคนกลางที่เคยไปกินเช็ตอาหารกลางวันของร้านนี้ ที่ราคา 200 กว่าบาท แต่จุกยันคอหอย...เข้าใจใช่ไหมคะถ้าทำให้แก๊งนี้จุกได้ แสดงว่าไม่ธรรมดา อะห๊าาาาา

ร้าน KAGONOYA สาขา SENA Fest ตามมาเลยจ้า อาจจะไกลจากใครหลายๆคน แต่เห็นมีสาขาอื่นด้วยนะ อย่าง เกษตร-นวมินทร์ ประมาณนี้ ตรวจสอบได้จากลิงค์ของร้านได้เลยนะ เดี๋ยวลีแปะไว้ให้ ^-^




            อย่างที่บอกไปด้านบนว่ามาดามลีกับพี่และเพื่อนมาตามโปร หน้าตาขอโปรก็เป็นแบบนี้ มีทั้งเซ็ตหมูและเนื้อ ราคาก็แตกต่างกันไป มีให้เลือกทั้งแบบ ชาบู หรือ สุกี้ สำหรับคนที่ไม่เคยลิ้มลองเลยและสงสัยว่าความแตกต่างระหว่างชาบูกับสุกี้ต่างกันยังไง มาเดี๋ยวลีจะบอกเล่าให้ฟัง
            เทคนิคการแยกสำหรับลีนะ ...
-          ถ้าเป็นสุกี้ น้ำมันจะเจ้มจ้นกว่า มันจะเค็มกว่า ดำกว่า แล้วเครื่องทุกอย่างจะใส่ลงมาในหม้อเลย
-          แต่ถ้าเป็นชาบู น้ำจะจืดกว่า เพราะบ้างร้านเขาอาจจะมีน้ำจิ้มโชยุ หรือเต้าเจี้ยวมาให้จิ้มกับเนื้อหรือหมู ส่วนผักหรือเครื่องเคียงจะแยกมาต่างหากนะจ๊ะ
...ไม่งงเนาะ ^-^

            วันนั้นลีสั่งเป็นสุกี้หมู 1 เช็ต พี่สาวคนโตของลีก็เช่นกัน ส่วนพี่สาวอีกคน และเพื่อนสั่งเป็นเซ็ตอาหารกลางวัน เดี๋ยวจะมาให้ชมกันหน้าตาเป็นยังไง

            ที่ SENA Fest อ่า หากใครเคยมาเดินจะรู้เลยว่าป่าช้ามาก แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีคนนะ แต่น้อยมากอ่ะแก แต่ไม่น่าเชื่อว่าวันนั้นคนก็เยอะอยู่นะในร้าน ร้านนี้นอกจากมีเช็ตอาหารพวกนี้แล้วยังมี Premium Shabu อีกด้วย ราคาโหดโค่ะๆ 499+ จ้าาาา มีบวกนะจ๊ะ นั้นหมายความว่า มื้อนั้นไม่ต่ำ 500 ถ้าไม่เจ็งจริง ลีบอกผ่านนะคะ 55555 ข้อเสียของร้านคือรอนานมาก ไม่เข้าใจว่าเขาทำอะไรกันอยู่ คือนานจริงนะ ถ้าเป็นเซ็ตอาหารกลางวันที่เพื่อนและพี่สาวเราสั่ง เออ อันนั้นพอจะเข้าใจ เพราะดูเข้าทำสดใหม่ ต้องช้าน ลำเอียงอะไรเบอร์นั้นนนนนน T[]T ตัดกลับมาที่ร้าน อีกอย่างเราว่าพนักงานยังดูงงๆนะ เพราะเราสั่งหมูไปกลับได้เนื้อ ตอนแรกที่เราได้รับอาหารมาเราก็ว่าทำไมหมูมันแด๊งแดง แดงแปลกๆ เราเลยตัดสินใจถามพนักงานกลับไป ปรากฏว่าเป็นเนื้อจ้า เกือบไปแล้วไหมล่ะลีเอ๋ย แต่เขาก็เปลี่ยนให้นะ ยอมรับ service ร้านนี้ บริการดีจริงๆ ไม่มีเหวี่ยงวีน เดินสำรวจตลอด (เขากลัวลีขโมยขวดโชยุเขา) ไม่ใช่!!! คือในเช็ตอาหารกลางวันมันมีรีฟิวน้ำไง เขาเลยเดินเติมน้ำตลอดๆ อีกนิดเดียวนี่จะปูพรมแดงให้ลูกค้าเดินแล้วนะ บริการดีมากเลย




            เข้ามาตอนแรกกับโต๊ะว่างๆ ที่มีแค่กระดาษกับตะเกียบว่างไว้ ข้างๆก็มีโชยุ มีเครื่องปรุงต่างๆว่างไว้เช่นกัน โต๊ะสะอาดดีนะ ถึงจะเป็นร้านชาบู คาบมันใดๆไม่มีเลย






อันนี้หน้าตาเมนูของทางร้านที่มีปกติเลย ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 300 บาท อืมมมม ต้นเดือนถึงกลางเดือนยังพอสู้ไหว ใกล้สิ้นเดือน แนะนำให้จำศีลกินมาม่าอยู่บ้านนะคะ มนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย...T..T





น้ำดื่มเราก็ยังจะถ่ายค่ะ ร้านนี้มีแบรนด์น้ำดื่มเป็นของตัวเอง สงวนราคาอยู่ที่ 20 บาทต่อขวดนะจ๊ะ ราคาเรทปกติของร้านแบบนี้เลยแกรรรร แต่ยังไงแกก็ต้องกินอ่า จะถือโพลาลิตรเข้าไป...มันใช่เรออออออ




หน้าตาอาหารของลีค่ะ สุกี้ยากี้หมู หน้าตาสวยงามตามท้องเรื่อง ราคาเช็ตนี้อยู่ที่ 199 บาท เห็นแบบนี้ อิ่มนะเว้ยยยยย เพราะนอกจากจะมีอีหม้อสุกี้และหมูนั่นแล้ว ยังมีข้าว 1 ถ้วย ซุป 1 ถ้วย และเครื่องเคียงจุ๊นึง เทคนิคการกิน เนื่องด้วยน้ำซุปมันเค็มนะแก เทคนิคของลีคือ ตีไข่ไก่ให้แตก เอาหมูลงไปลวกๆให้สุก แล้วเอามาจุ่มไข่ดิบ แล้วกิน อร่อยมาก ฉันคอนเฟิร์ม แต่ถ้าใครไม่ชอบไข่ดิบๆ ก็ใส่ลงไปในหม้อก็ได้นะ เพราะมันจะทำให้น้ำรสชาติจืดลง (แต่น้ำเค็มจริง) แล้วแต่คนชอบ ลีชอบเข้มๆ



ซุปที่เขาให้มาคือดีมากแก รสชาติกำลังดีเลย ไม่มีกลิ่นเหม็นๆของเต้าเจี้ยวอีกแล้วววว ปลื้มใจอะไรเบอร์นั้น





ในส่วนของข้าว ชามใหญ่สองมือยักษ์ของมาดามโอบค่ะ แต่เปิดมาข้าวมีอยู่ประมาณครึ่งถ้วยนะ จะกระไรก็ช่าง ก็อิ่มค่ะ อิ่มมากกกกก



เครื่องเคียงถามผู้รู้แล้ว เขาบอกว่าคือผักดองเกลือ ไม่เค็มนะ ไม่เค็ม ไม่ต้องกลัว


ในส่วนของเซ็ตอาหารกลางวันที่ว่า ของเพื่อนมาดามก่อน เป็น ข้าวสลัดไก่ทอด เหว่ยยย จะบอกว่าตอนสั่งนางมาจานแรกเลย และนางก็กินไปกวนตีนคนที่ยังไม่ได้อาหารไป เกือบไม่ได้ตายดี ในส่วนของอาหารนาง นางแฮปปี้ นางบอกว่าอิ่มมาก ส่วนสลัดน้ำสลัดก็ดีย์ไม่เปรี้ยวมาก เป็นน้ำสลัดแบบซีซ่าสลัดจ้า มีข้าว ซุป และ ผักดองเกลือเช่นเดียวกันกับของลี สงวนราคาอยู่ที่ 189 บาท




ตัดภาพมากับคนที่ได้ช้าที่สุดในโต๊ะ ข้าวคาราเกะ และซีซ่าสลัด ทุกอย่างเหมือนกับไก่ทอดข้างบนต่างแค่ตัวไก่ที่เป็นไก่คาราเกะ พี่สาวบอกว่า เคี้ยวเมื่อยปากมาก ชิ้นมันใหญ่เวอร์วัง เอิ่ม...ร้านคะ ซอยไก่ถี่ๆกว่านี้ได้ไหมคะ สงสารคนแก่ #เผ่น เช็ตนี้สงวนราคาอยู่ที่ 200 บาท



ข้าว 2 เช็ตข้างบน น้ำเป็นรีฟิวนะจ๊ะ ราคารวมอยู่ในนั้นเรียบร้อยแล้ว ดีย์อะไรเบอร์นั้น ในขณะที่พวกชาบูยังต้องดูดน้ำขวดต่อไป ใจร้าย ลำเอียงที่สุด

โดยรวมแล้วอร่อยดีนะ ฟิน ดี แต่ที่ไม่ฟินเห็นจะเป็นกลิ่นตัว เปลี่ยนเครื่องระบายอากาศใหม่ไหมคะร้าน ชานงชาแนล เพลย์บงเพลย์บอยที่ฉีดไป ได้กลิ่นหม้อไฟออกมาแทน น้ำหอมที่ฉีดแพงนะคะ แพงงงงงง T^T และติดทนด้วยไม่ใช่อะไร (กลิ่นหม้อไฟนะ) จะอย่างไร ทุกสิ่งที่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเราล้วนแล้วให้อภัย เพราะอะไรคะ...เพราะผู้จัดการสาขา หล่อ ^-^ ไปลองชิมดูกันนะจ๊ะ ชิมหม้อไฟนะ ไม่ใช่ผู้จัดการ หยั่มมา!!! จุบุ ครุคริ งุงิ







วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

เฮง เฮง เฮง กลางเดือน


ฮ้ายยยยยย เอเวอร์รี่บอดี้ ไนท์ทูซียูอะเกรน...ถามว่าจะทักเป็นภาษาอังกฤษทำไม เกี่ยวกับอาหารวันนี้ไหม บอกเลยว่า...ไม่!!! เออ แล้วจะเขียนทำห่าไร นี่ยังไม่เข้าใจตัวเอง
            กลางเดือนแล้วสิๆ เงินเดือนจะหมดแล้วสินะ หึหึ พวกคนจน!! ใคร? ลีนี่แหละค่ะจะใคร T^T เงินไม่มีจะกินของแพงๆแล้ว แต่ลีก็ยังโหยหาหมู...งั้นไปหมูกระทะแก้ขัดไปก่อนเนอะ
            คืองี้ มาดามลีทำงานอยู่ไม่ห่างจากร้านที่จะมาแนะนำไม่มาก แต่ไม่เคยรู้เลยว่ามีร้านดีๆอยู่ห่างแค่เพียงเอื้อมมี บังเอิ๊ญ ว่าพี่สาวมาดามไปเจอรีวิวจากเว็บๆหนึ่ง ส่งลิงค์มาให้อ่าน เอ้า!!! น่ากินนี่หว่า คนส่งลิงค์มาต้องรับผิดชอบ เราแก๊งกินแห่งสยาม เลยเดินทางไปลองลิ้มกันวันนั้นค่ะ!!!
            ร้านชื่อว่า “เฮง เฮง เฮง หมูกระทะ” เป็นน้ำจิ้มสูตรโคราช วิธีเดินทางที่ง่ายสุดนะ ลง BTS สถานีสะพานตากสิน แล้วต่อแท็กซี่ไม่เกิน 40 บาท (ถ้ารถไม่ติด) บอกเขาไปค่ะ ว่าไปตรงโค้งโรงแรมชาเทรียม (Chatrium Hotel) โดยปกติแท็กซี่จะไปจอดข้างหน้ามัสยิด ดารุลอามิตี ห้ามขาด ห้ามเกินนะ - - ถ้ามารถส่วนตัว ก็วิ่งมาทาง ถนนจันทร์นะแจ๊ะ แต่อย่าเอามาเลย เชื่อเถอะว่ามันไม่มีที่จอด


            จริงๆตอนอ่านรีวิวก็ไม่คิดว่าจะเด็ดดวงอะไรนักหรอก เพราะนี่ก็กินหมูกระทะมาเยอะ (ดูจากสัดส่วนของมาดามลีแล้วนั้น...) ก็ยังไม่มีร้านไหนโดนใจ ปัง ปัง ปัง!!! สักที แต่พอมาถึงถิ่นเท่านั้นแหละ โอ้วโห้ววววว คิวโคตรยาวอ่ะ บ้าเถอะ พี่ชาย ฉันอุ้มท้องว่างๆมาหาพี่ พี่จะให้ฉันรออะไรอีก! แล้วรอไหม...รอค่ะ - - ตอนแรกได้คิวมา เห้ย คงเหรอไม่กี่คิวหรอก รอได้ แต่ไม่ใช่เลยจ้า...ทุกวันนี้ ลี ยังไม่เข้าใจ อะไรคือ Solution ในการจัดคิดของร้านนี้ จาก 10 ไป 15 แล้วกลับมา 4 นี่คือเรียงแล้วเรอะ!!! แต่เขาเรียงถูกคนนะตัวเธอ
            นอกจากการรอที่ว่าทรมารแล้ว หึหึ ร้านนี้เพิ่มความโหดด้วยการทอด เกี๊ยวกุ้ง หอยจ๊อ ปอเปี๊ยะ กันหน้าร้านค่ะ แล้วอีพวกนี้อยู่รอกันอยู่ตรงไหนคะ ก็หน้าเตาที่เขาทอดแหละค่ะ หึหึ หอมสิคะคุณ!!!

            ในส่วนของการนั่งโต๊ะ ดีไซน์ไม่มีอะไรมาก แค่เจาะรูตรงกลางเพื่อวางเตา เสียวนิดๆ ร้อนหน่อยๆ อรรถรสนะ บอกเลย



            สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการมากินร้านนี้ทุกครั้ง ก็คืออี เกี๊ยวกุ้ง ที่ล่อหน้า ล่อตาอยู่หน้าร้านแหละ กุ้งเต็มตัวหอด้วยแป้ง น่าจะแป้งปอเปี๊ยะแหละ เพราะดูไม่มีรสสัมผัสของแผ่นเกี๊ยวเลย น้ำจิ้มก็น้ำจิ้มหวานๆ เผ็ดนิดๆ 1 จานมี 6 ชิ้น ราคาอยู่ที่ 60 บาท ตกตัวละ 10 บาท ก็ถือว่าโอนะ ที่ว่าโอ เพราะเขาทำสดๆเสิร์ฟร้อนๆ แม่ง กัดคำแรกโคตรกรอบค่ะคุณ จิ้มน้ำจิ้มอีกนิดนี่ ดีย์!!!




            ร้านนี้ข้อเสียคือเด็กเสิร์ฟฟังแล้วไม่ค่อยจำเท่าไหร่ คือบางครั้งไปนั่งนานมากอ่ะแกกว่าเตาจะลง พอเตาลงแล้ว อีห่าน้ำซุปยังไม่มาก็ต้องตาม บางทีตามอยู่  3-4 รอบ กว่าจะได้น้ำซุปมา เลือดตาแทบกระเด็น คือเราเข้าใจนะ เพราะมันไม่ใช่บุฟเฟ่ เพราะฉะนั้นจะมีคนสั่งอยู่ตลอดเวลา มีงงกันบ้างไม่แปลก แต่จัดระเบียบหน่อยก็ดีนะ

            เมื่อเตาลงเราก็สั่งสิคะ อย่างที่บอกว่าเป็น อราคาส ไม่ใช่บุฟเฟ่ เพราะฉะนั้นเมนูก็จะมีชุดเล็กชุดใหญ่ และสั่งแยกว่าต้องการอะไรเพิ่ม ด้วยความเป็นสายแข็งแห่งวงการ เราจึงจัดชุดใหญ่มา 1 ชุด ราคา...จำไม่ได้ น่าจะประมาณ 200 กว่าบาท ซึ่งประกอบไปด้วย มันหมู (ไว้นาบกระทะ) สันคอหมู หมูสามชั้น เบคอน ตับ หัวใจ ปลาหมึก และ กุ้ง พร้อมตอกไข่ไก่มา 1 ฟองข้างบน นอกจากนี้ยังมี ผักและวุ้นเส้นด้วย อันนี้คือใน 1 ชุดนะ แต่อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชุดเล็ก/ใหญ่นะจ๊ะ





(ในส่วนของรูป ผัก หิวอะไรเบอร์นั้น ถ้ามือจะสั่นขนาดนี้ ไหว้วานคนอื่นถ่ายให้มะ - -)

          วุ้นเส้นนี่ สั่งเพิ่มนะ ราคาอยู่ที่ 20 บาทมั้ง ถ้าสั่งเพิ่ม เดี๋ยวจะตกใจว่าเหตุอันได้วุ้นเส้นถึงมากมายขนาดนี้ ดูจากทรงร้านน่าจะแช่น้ำไว้นาน เพื่อให้เส้นสุกเร็วขึ้นนะ มาดามบอกเลยว่า...มันอืดเต็มทุกอณูพื้นที่มากค่ะ



            พอได้มาแล้วก็ตีๆๆให้เข้ากัน น้ำที่หมักหมูมาและไข่ เวลาใส่น้ำซุปที่อยู่ในกระทะนะแก มันจะเจ้มจ้นเพิ่มขึ้นเลยล่ะ (อันนี้ทริคส่วนตัวของแก๊ง แต่ถ้าไปเองแล้วแต่ชอบเลยจ้า แต่ทำตามได้นะไม่ว่ากัน)



          ในส่วนของสิ่งที่สั่งเพิ่มนั้น...หึหึ

          เบคอน เออ จะว่าไป เบคอนที่นี่หน้าตาแปลกๆเนอะ ดูไม่เหมือนเบคอนในซุปเปอร์มาร์เก็ตเลย แต่อร่อยนะ มาดามโคตรชอบ



            และหมู 3 ชั้น จะว่ามาดามโหดยอมรับ แต่คือหมูสามชั้นหมักเขาดีจริงๆเว้ยแก มันหอมมากกกก หอมเครื่องหมัก หอมกลิ่นมัน และมันนุ่มมากเว้ย!!!




               ในส่วนของน้ำ น้ำที่นี่บอกเลยว่าไม่แพง น้ำแข็งก็เช่นกัน ไปกัน 4 คน ตกคนละ 150 แล้วอิ่มจนพุงจะแตก แกว่ามันโอเคไหมอ่ะ มาดามนะยกให้ร้านนี้เป็นร้านหมูกระทะที่ 1 ในใจเลย

จริงๆมีรูปแยอะกว่านี้อีก แต่เกิดอุบัติเหตุทำให้ต้องล้างเครื่องรูปหายหมดเลยเหรออยู่แค่เนี้ย T^T เอาไว้ถ้าไปกินอีกจะถ่ายมาโชว์ไหมนะ


อ่านเสร็จไปลองกันดูนะแจ๊ะ ไปหาของกินต่อละ บรัยส์  ^___^