วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2559

เดี๋ยวโดนยำ...


สวัส...ดีค่า ลั้นล้ามากค่ะกับการดองบล็อก โอเค เข้าเรื่อง ในขณะที่อุณภูมิประเทศไทยแลนด์ดินแดนชวนฝัน...(ฝันมากกก) กำลังงดงามราวๆเกือบ 40 องศาเซลเซียสนั้น อาจจะทำให้ใครหลายๆคนเบื่อ...กับอาหาร จะกินผัดกะเพรามันก็เผ็ด จะกินต้มยำกุ้งมันก็ร้อน อะไรคือบรรทัดฐานที่เลือกอาหารเหล่านี้มาเป็นอาหารประจำชาติในขณะที่อุณภูมิโดยเฉลี่ยของภูมิประเทศอยู่ที่ 38 องศา ทำไมไม่เลือก “เย็นตาโฟ” คะ!!! ถรุย
            
          จบเรื่องไร้สาระเถอะ มาวันนี้เราจะพาไปกินอาหารเกาหลีอีกแล้ววววว (อีนี่เคยเบื่อไหม ตอบเลยว่าไม่) บ้านเรามีข้าวยำปักษ์ใต้ใช่มะ เห้ย!!! บ้านะ รู้หมดเลยว่าจะมารีวิวข้าวยำเกาหลี ห่าจิก ไปค่ะ เราจะไป “บิบิมบับ” กัน คือเอาเท่าที่รู้นะ บับ มันคือภาษาเกาหลี แปลว่าข้าว ส่วน บิบิม น่าจะเป็นการคลุกกับซอสไรงี้ (มั่วฉิบหาย) ง่ายๆแม่งก็คือข้าวยำ
            
         ไอ้อาหารประเภทนี้ จริงๆถ้าเป็นที่บ้านเขาทำโคตรง่ายยยย แต่พอมาอยู่ไทยอิห่าแพงหูฉี่ แต่ก็อย่างว่านะเรื่องตัววัตถุดดิบบางอย่างเราหาไม่ได้จากบ้านเราเองไง ต้องนำเข้ามันเลยแพง มาดามคนดีเลยเสียเงินในกระเป๋าไปชิมเพื่อบอกต่อทุกคน คนดีปะล้าาาา  >______<   ถ้าอ่านจบแล้วใครจะไปกิน ร้านชื่อว่า "The BiBimBub" หาไม่ยากเลยเว้ยแก  Paragon ชั้น G นะ ชั้นรักเธออะไรนี้ ไม่เอา เชิญเมิงเดินหลงเถอะค่ะ (ทำไมโหด) ร้านมันจะอยู่ตรงข้ามกับ Burger King (มั้ง) 555555 ร้านไม่ใหญ่ๆ ไม่ต้องแห่กันไปมากมาย 5555 สงสารร้านเขา
           
       พอถึงร้านแล้วก็หาที่นั่งให้เรียบร้อยนะ อยากจะกินอะไรก็สั่งเข้า ร้านนี้มีทั้งหมู ทั้งเนื้อ (ส่วนมากเป็นเนื้อ) ชอบแบบไหนสั่งได้เลย วันนั้นมาดามลีไปกับเพื่อน แค่ 2 คน ตัวมาดามสั่ง “บิบิมบับ หมู” เพื่อนมาดามสั่งเป็น “ข้าวกับซุปกิมจิ หมู” ถามว่ารอนานไหม ก็ตามสภาพอ่า วันนั้นคนเยอะ ทัวร์จีน ญี่ปุ่น เกาหลี แม่งลง... - -* สรุปคือวันนั้น ก็รออยู่ประมาณเกือบ 20 นาที

            จานของมาดามมาละ ข้าวยำ ร้อนฉ่ามาเลยค่ะ จำเป็นต้องเซิร์ฟร้อนขนาดนี้ไหม ลวกปากไหมถามใจดู ... อ่ะดูที่หน้าตา คุณพระคุณเจ้า หน้าตาประดุจหลุดมาจากนิตยาสารค่ะ หน้าตาดีเว้ย







         มาโฟกัสที่เครื่องเคียง เรียงจากด้านไกลสุดมาด้านใกล้สุดแล้วกัน อันที่เห็นลิบๆนั้น คือ บร็อคโคลี่ 2 หน่อ ที่ป้ายด้วยซอสเผ็ดของเกาหลีมา (คุณค่าทางอาหารมาเต็มค่ะ) อันต่อมาเป็นสาหร่ายเว้ยแก ให้โคตรเยอะ อร่อยด้วย ไม่เหม็น แต่อะไรคะ มันคลุกน้ำมันงามาค่ะ อ้วนไหมคะ อ้วนค่ะ เอดอกกกก แต่ยังคงกินกันต่อไป เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา... จานถัดมา กิมจิ ค่ะ อร่อยไหม ไม่รู้ ไม่ได้แตะเลยค่ะ มาดามเป็นสายแดกที่ค่อนข้างเอาแต่ใจนิดนุง อันสุดท้าย ไม่มีอะไรดีไปกว่าอันนี้ มันคือ...อะไรวะ? ไม่รู้จริงๆ แต่แม่งอร่อยเหอะ รสชาติมันเหมือน "ฮือก้วย" อ่ะ แต่มันบางกว่าเยอะ แป้งน้อยกว่าเยอะมากกกก และนางก็คลุกน้ำมันอีกเช่นเคย.... 







           อ่อๆๆ มีซุปสาหร่ายมาให้ด้วยนะเว้ย  ไม่ค่อยมีกินเต้าเจี้ยว หรือถั่วหมัก มีสาหร่ายด้วย ให้ผ่านๆ







            ชามหลักบ้าง ในชามหลักก็จะมี มีที่ผัดกับซอสโปะอยู่ตรงหน้าสุด ผักยำก็จะมี เห็ดหอม แครอท ผักโขม ก้านอะไรสักอย่างหน้าตาไม่น่าจะใช่สัญชาติไทย ถั่วงอก ที่ผ่านการผัดน้ำมันมาหมดแล้ว และไชเท้าที่คลุกกับเครื่องมั้ง มีแปะก๊ยวแถมมาให้ตั้งเม็ดนึงแหนะ วิธีการกินก็เอาซอสแดงๆที่เขาเอามาให้ด้วยราดค่ะ แล้วก็คลุกมันให้เข้ากัน...ง่ายมา รสชาติเหรอ อร่อยนะ เค็มๆ หวานๆ รสถูกปากมาดามมากเลยค่ะคุณ สงวนราคาอยู่ที่...250 บาท ไม่เกินนี้ (ออกแนวจำราคาไม่ได้)







            ต่อมาเป็นจานของเพื่อนมาดาม ซุปกิมจิค่ะ จากรูปดูรีบนะ เลอะเทอะมาก เครื่องเคียงเหมือนกันค่ะ แตกต่างกันตรงที่ของเพื่อนมาดาม มีข้าวเสิร์ฟแยก และไม่มีซุปนะจ๊ะ (เมิงสังซุปเพื่อมากินกับซุปเพื่อ?) รสชาติ...เอาจริงนะ แม่งเหมือนแกงส้มบ้านเราเลย เปรี้ยวๆ เค็มๆ แต่ไม่เผ็ดเท่าไหร่นะ สำหรับใครที่ชอบรสจัดนี่ ไม่ผ่านๆ ทั้งสองจานเลย ส่วนเช็ตนี้ก็ราคาไม่เกิน 250 บาทเช่นกัน







            บ่นมาขนาดนี้แดกหมดไหม...จะเหลือไว้ทำอะไรล่ะคะคุณ








            คือจะบอกว่าถ้ามากินช่วงต้นเดือน โอเคเลยนะแก แต่ 250 บาท กับเซตนึงที่ไม่พอยาไส้ผู้หญิงร่างยักษาอย่างฉันมัน...ฉันว่ามันแพงไปปะวะ 250 นี่ยังไม่รวมค่าน้ำนะคะบอกเลย
           เอาๆ แล้วแต่คนชอบน้อออออ แต่สำหรับเรื่องรสชาติ มาดามลีขอให้กลางๆ 6 คะแนนแล้วกัน คือมันไม่ได้หวือหวา แบบว่ากัดคำแรกแล้ว “โอ้ววววว แม่สาวน้อย” อะไรงี้ ฉันว่ามัน So So ไปหน่อย แต่ถ้าซึมซับรสชาติกับข้าวบ้านผัว โอเคเลยคร่าาาาา

            โอเค จบนะ แล้วเจอกันใหม่เมื่อชาติต้องการนะคะ ขอตัวไปเกณฑ์ทหารก่อน ถรุย ไม่ใช่ละ บรัยยยยย มร๊วฟฟฟฟ



22.03.2016

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น