วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2560

ก็ดีนะเธอว์

สวัสดีจ้า คิดถึงเค้าปะตัวเอ๊งงงงงง (ใครคิดถึงมึง) มาดามลี คนเดิม เพิ่มเติมคือการดอง - - กลับมาแล้วน้าาา ที่เค้าหายไปนาน ไม่ใช่อะไร เขาไม่มีเวลามาเขียนเลย (ขี้เกียจน่ะสิ) แต่ๆๆ เค้าก็ไม่หยุดที่จะหาร้านอร่อยดีๆมาฝากทุกๆคนนาจาาา เชื่อลี แล้วคุณจะมีหน้าท้องที่ใหญ่ขึ้น (มันดีใช่ไหม)
จริงๆในมือของมาดามลีมีหลายร้านเลยแหละที่อยากจะแนะนำ แต่ด้วยโอกาส จังหวะ เวลาของเรามันไม่ตรงกัน ทำให้เลยยังไม่ได้ปล่อยออกมา วันนี้ฤกษ์งามยามดีละ มะ!!! ไปหาอะไรกินกัน จะสิ้นเดือนแล้วสิ เงินเดือนเหลือน้อยแล้วสินะ หึหึหึ พวกคนจน!!! เออ เค้าด้วย T^T ในยามขัดสนแบบนี้ แต่ปากดันร้องเรียกหาบุฟเฟ่ต์ ทำไงล่ะ บุฟเฟ่ต์หัวนึงก็ตกเฉลี่ย 400 บาท แล้วอ่ะ กินข้าวได้หลายมื้อเลยนะเว้ย! จะมีบ้างไหม ร้านบุฟเฟ่ต์ ราคาจับต้องได้ยามปลายเดือนแบบนี้ แถมรสชาติก็ดี เดินทางก็สะดวก มีม้ายยยยยยย

มีค่ะ!!

วันนี้มาดามลีจัดให้ความอร่อยที่คุณสามารถจับต้องได้ในปลายเดือน แถมเดินทางสะดวกอีกต่างหาก ไม่ว่าคุณจะมาทางรถเมล์ รถไฟฟ้า หรือ ใต้ดิน ก็สะดวกทั้งนั้น วันนี้เราขอนำเสนอร้านที่เป็นสมบัติลึกลับใจกลาง เจเจ กรีนนนนนนน (อีนี่คนเขียนสคริปท์ให้โฮมช้อปปิ้งแน่นอน) เห็นไหมน้องลีบอกแล้วว่ามาสะดวก ถ้ามารถเมล์ จะสาย 8,27,77,3,145,96,52 ฯลฯ โอ๊ยยยย ผ่านทั้งนั้น ลง “จตุจักร” ง่ายๆเลย ถ้ามารถไฟฟ้าก็สุดสายที่ “หมอชิต” ถ้า รถไฟฟ้าใต้ดิน ก็สถานี “จตุจักร” ง่ายกว่านี้ไม่มีอีกแล้วแก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันยากก็ตรงหาร้านนี่แหละ เพราะตอนน้องลีไป น้องลีจะไปกินอีกร้านที่สไตล์คล้ายๆกัน แต่น้องลีได้เจอร้านนี้ซะ แถมราคาโดนใจ ก่อเข้าสิจ๊ะ ร้านจะตั้งอยู่โซนอาหารและเครื่องดื่ม ด้วยความหิวอีนี่ไม่เคยมองซ้ายมองขวาเลยว่าอยู่ติดกับร้านอะไรบ้าง รู้แค่ว่าร้านตรงข้ามเป็นผับมีดนตรีสดนาจา อ่ออออ ใกล้ๆกลับร้าน “หอนาฬิกา” แหละแก

ร้านโปร่งดูไม่ยาก ป้ายใหญ่มาเขียนตัวเท่าฝาบ้านว่าร้านBoyJosh เป็นงะๆ คุ้นกันไหม จะบอกว่าร้านนี้เขาเป็นร้านโคขุนเว้ย มีสาขาแรกมาแล้ว สาขาแรก อยู่ที่ ถ.เลี่ยงเมืองปากเกร็ด สาขา 2 อยู่ เมืองเอก รังสิต ยัง...ยังไม่จบ สาขา 3 ซอยแจ้งวัฒนะ ที่จตุจักรนี่ดูจะเป็นสาขา 4 และดูเหมือนจะเปิดได้ไม่นานนะ น่าจะประมาณปลายปีที่แล้ว มาดามลีไม่แน่ใจว่าแต่ละสาขา คือขยายกิจการ หรือว่าเป็นเฟรนด์ชายน์ ถ้าใครรู้หลังไมค์มาบอกที ฮ่าๆๆๆ ส่วนเรื่องรสชาติ สาขาอื่นน้องลีตอบไม่ได้ แต่สาขาจตุจักรจัดว่าเด็ดนาจาาาา





ร้านBoyJosh เนี่ย เป็นบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง และ ชาบูในตัว ได้ยินไม่ผิด จริงๆ เดี๋ยวให้ดูรูป ขอพูดก่อน ฮ่าๆๆๆ รายละเอียดปลีกย่อย สงวนราคาอยู่ที่ 249 บาท ขาดตัวรวมน้ำแล้วนะ กินได้ 90 นาที เอออ เห็นมะ แค่ราคาก็ตาโตละ ลุกเลย ลุกให้ไวเลย ตัวร้านจะค่อนข้างโปร่ง แต่เล็กมากเลยถ้าเทียบกับโต๊ะที่มีเกือบ 20 โต๊ะได้มั้ง เก้าอี้ร้านค่อนข้างเล็กไม่เหมาะกับคนตูดใหญ่ย่างน้องลี - - แต่โอเค นั่งได้ ปัญหามันอยู่ที่ เวลาคนเยอะนี่สิ จะลุกไปตักขอทีโคตรลำบาก เพราะกลัวว่าถาดจะไปโบกหัวชาวบ้านเขา  ร้ายจัดสวยนะ โทนดำๆแดงๆ ดูเข้ากับเจเจกรีนดีอ่ะ






อ่ะ มาถึงสิ่งที่ทุกคนสงสัย ร้านนี้ตัดไปหาเรื่องการทะเลาะภายในทีมงาน บางคนอยากกินชาบู บางคนอยากกินปิ้งย่าง หารกันไม่ลงตัว ร้านนี้โคตรตอบโจทย์ เรื่องเยอะกันนักใช่ไหม กูจัดให้ 2 อย่างเลยจ้า กระทะปิ้งๆเตานึง พร้อมด้วยหม้อน้ำซุป เอออ เลิกทะเลาะกันได้แล้วเนาะ



น้ำซุบที่เขาให้มา...เอาจริงนะแก น้องลีรักน้ำซุปเขา!!! คือรสชาติโคตรกลมกล่อมอ่ะ คือมันดีมากแก มันดีจริงๆ เค็มนิดๆหวานหน่อยๆ หอมกินข้าวโพด มีกินคนอร์เท่าไหร่นะ ฮ่าๆๆๆ  



ในส่วนของน้ำจิ้มมี 3 อย่าง จิ้มกันให้ตาลายไปเลย พนักงานเสิร์ฟเขาจะเอามาเสิร์ฟก่อนตอนแรกพร้อมกับเนย หลังจาดนั้นถ้าน้ำจิ้มหมดก็เดินไปเติมเอานะจ๊ะ  น้ำจิ้ม เบอร์ 1 นับจากฝั่งซ้าย รสชาติจะคล้ายๆน้ำจิ้มแจ่วอ่ะ เค็มๆ อันกลางเขียวๆแบบนั้นซีฟู้ดแน่นอนจ้ะ สุดอันริมขวาคือน้ำจิ้มสุกี้ปกติ ลีว่า สุกกี้ดีสุด...




ความ เห้ย!! ของร้านนี้คือ นางจะมีถาดยาวสัก 30 ซม. มาให้ 1 ถาด และถาดที่เป็นหลุมๆ มี 6 หลุม อีก 2 ถาด วิธีใช้คือ ไอ้ถาดยาวๆ แกก็เอาไว้สักผักใส่วุ้นเส้นนะ ส่วนถาดหลุมๆเนี่ย แกจะตักหมู เห็ด เป็ด ไก่ ก็เรื่องของแก มันเป็นสมบัติของวงศ์ตระกูลแกละ รักษาให้ดีตลอดจน 90 นาที นี้ เออออ คือมันช่วยเรื่องการประหยัดในการล้างจานของทางร้านได้ดีทีเดียว ถ้าไม่คิดอะไรมาก มาดามว่า วันก็ดูลุยๆไปอีกแบบนะ




ของกินเล่นทางนี้ก็มี ไม่ว่าจะเป็นข้าวผัด เฟรนฟราย ของทอด และ เด็ดสุดคือหมี่หยก ชอบมาก กินกับน้ำจิ้มสุกี้ของเขานะ เอา MK มาแลกก็ไม่ยอม คือเส้นเขาลวกดีจริง ชอบตรงที่คลุกกระเทียมเยอะๆนี่แหละ ถามหารูปเหรอ...ฉันถ่ายไม่ทันอ่ะแก คือแค่เดินๆนี่ก็จะเหยียบหัวแม่โป้งกันอยู่ละ คนเยอะเกินนนนน (เพราะของมันอร่อยปะวะ)

เอาล่ะ มาถึงของหลักบ้าง ในราคา 249 บาทอ่ะแก ลองคิดดูดิ มีทั้งหมู ทั้งเนื้อ และปลาดอลลี่ มันถูกนะเว้ย เพราะสำหรับบางที่อ่ะ ถ้ามีเนื้อจะเป็นอีกราคานึงเลยนะ 300 อัพแน่นวล แถมบางร้านราคาแบบนี้ไม่รวมน้ำนาจา เออออ คือในส่วนของเนื้อมาดามลีไม่สันทัดจริงๆ แต่ไอ้เนื้อที่เขามีก็พอจะรู้มาบ้างว่ามันดีนะเว้ย อย่าง เสือร้องไห้ เนื้อลูกมะพร้าว (สังเกตุได้ว่าถ้าเป็นเนื้อเขาจะใส่ถาดดำๆไว้แยก) มันอาจจะไม่ได้แบบ วากิว น่องลาย ขนาดนั้น เพราะด้วยราคา แต่มีเนื้อนี่ถือว่าคุ้มแล้ว และเท่าที่ถามพี่สาวที่ไปด้วยกันวันนั้น นางบอกว่าเนื้อดีเลยแหละ




ในส่วนของผัก ก็ไม่ได้มีอย่าง 2 อย่างนะ มีผักบุ้ง ผักกาด ขึ้นฉ่าย เห็ดเข็มทอง เห็ดออรินจิ แครอท กะหล่ำหันฝอย ดูดีเลย ฉันชอบมากแกที่จะเอาแครอทกับกะหล่ำหันฝอยโยนลงหม้อน้ำซุป พอมันนิ่มๆมากินนะ โคตรฟิน ส่วนเห็ดออรินจิอ่ะ ตัวช่วยชีวิตเลยนะเว้ยแก ด้วยในส่วนปิ้งย่างมันเป็นกระทะที่ไม่มีรูระบายน้ำมัน เวลาเอาหมู หรือ เนื้อลงไป นาบกับเนย พอน้ำมันมันออกเยอะๆมันก็กระเด็นไง โยนเห็ดลงไปค่ะ ผัดๆๆ ช่วยได้เยอะมาก แถมพอเห็นเสร็จแล้วจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟุ้ดนะ โคตรดี เพื่อนน้องลีรักมาก



ใครเบื่อหมู ไม่กินเนื้อ ไก่ก็มีนะ จะเป็นไก่เทอริยากิ ไก่ปาปริก้า เครื่องในก็มี ตับ หัวใจ





มาถึงพระเอกของเรา หมูๆๆ มีหลายแบบนะเออ ไม่ว่าจะเป็นกระดูกซี่โครงหมู เบคอน สันนอก สันคอ หมูเกาหลี หมูพริกไทยดำ หมูนุ่ม โหหหห โคตรเยอะ แต่พวกหมูหมักๆอ่ะทางร้านเขาหันชิ้นเล็กไปนะ เวลาลงกระทะแล้ว หดเหลือจิ๊ดเดียวเอง จะกินทีก็หาไปเหอะ นึกว่ากระทะดูดไปละ ส่วนรสชาติหมักเข้าเนื้อดีเลยล่ะ โดยเฉพาะกระดูกหมู คือมันดีมากเลย ถ้าไม่ติดว่าใส่เหล็กจัดฟัน แม่จะเหมาทั้งร้านมานั่งแทะ




สายเบคอนอย่างน้องลี มีหรือจะพลาด เบคอนเขาดีนะแก แต่ฉันแย่งชิงไม่ค่อยทันอ่ะ เครื่องสไลต์จะอยู่ตรงเค้าวเตอร์ สไลด์กันตรงนั้น วางปุ๊บมือผีหยิบปั๊บ ไม่เร็วก็ไม่ได้ไปต่อนะจ๊ะ ที่มาดามได้มา เพราะยืนเฝ้าค่ะ 55555 อีดอกกูยืนขนาดนี้ ใครหยิบกูกินผัว เอ้ย หัว นะคะ

ส่วนอย่างอื่น ก็มีปูอัด ปลาดอลลี่ หมึกกรอบ 2 อันหลังนี่น้องลีฟินมาก เอาปลาดอลลี่โยนเข้าซุป หมึกกรอบก็ผัดในกระทะ คือดีย์ ปลาไม่คาวด้วยบอกเลย รักมา



น้ำที่บอกว่ารวมอยู่ในราคา 249 บาท มีแต่น้ำอัดลมนะ เอส โคล่า ที่มี GOT7 ผู้ชาย 7 คน ประกอบด้วย เจบี จินยอง (ผัว) แจ๊คสัน มาร์ค ยองแจ แบมแบม ยูคยอม เป็นพรีเซ็นเตอร์... อ่อ ไม่เกี่ยวอ่ะ อยากบอก - -  มีหลายรสให้เลือกเลย โคล่า น้ำเขียว น้ำแดง ว่ากันไป แต่นี่ก็มองหาน้ำเปล่าอยู่นะ แต่ไม่เจออ่ะ ที่ร้านไม่มีน้ำเปล่าเหรอ สงสัยมาก ใครรู้หลังไมค์มาบอกด้วยนะ



หลังจากตักทุกอย่างเสร็ตสรรพเรียบร้อยแล้ว ก็เอนจอยอีทติ้งกันสิจ๊ะจะรออะไร ใครชอบแบบไหนจัดการบริการตัวเอง จะต้มจะย่างจะปิ้งจะทอดก็สุดแล้วแต่ใจคุณ ในเวลา 90 นาทีนับจากคุณวางกระเป๋าชาแนล พาด้า บลาๆๆ ลงบนโต๊ะ กรุณาควบคุมเวลาให้ดี แล้วฟาดหมูให้เต็มกระเพาะนะจ๊ะ อย่านั่งนับว่าที่ยัดเข้าไปกี่แคล เดี๋ยวค่อยไปเบิร์นออก ตอนนนี้เอนจอยความอร่อยก็พอ

อิ่มน่ำกับของคาวแล้วของว่าก็มีไอศกรีมอยู่นะแก ไม่ได้ถ่ายมาอีกแหละ เพราะตอนนั้นจะยกพุงไม่ไหวแล้ว ไอศกรีมก็ล้งปากได้ดีในระดับนึงนะ แต่ฉันว่ารสมันแหม่งๆไปน้อยอ่ะ เท่าที่ตัก มะนาวกับ กะทิ (ที่เข้าใจว่าเป็นวนิลา) มา

ส่วนตัวแล้ว บุฟเฟ่ราคา 249 บาท ที่มีทั้งเนื้อทั้งหมู และของทะเล แถมยังรวมค่าน้ำแล้ว มีของหวานพร้อม ฉันว่ามันเป็นราคาที่ถือว่าโคตรคุ้ม ต่อให้คุณจะอยู่ในวัยที่คิดว่า เห้ย!! ฉันกินบุฟเฟ่ต์ไม่คุ้มแล้วอ่ะ ยังไงมันก็ยังคุ้มอยู่ดี ลองดูนะใครใกล้สาขาไหนก็ไปลองสาขานั้นดู แต่ส่วนตัวน้องลีคิดว่าสาขา เจเจ กรีน สะดวกสุดละ ไปง่ายมาง่ายดี ศุกร์ เสาร์อาทิตย์ ว่างๆ หาร้านข้าวกินไม่ได้ลองไปดู ไปถึงที่นั่นสักทุ่มนึงกำลังดี กินเสร็จเดินช้อปชิวๆต่อ จะได้กลับบ้านกันไม่ดึกมาเนาะ ลองดูนะคะ ถูกปากหรือไม่ยังไงก็แว๊บมาบอกน้องลีตัวเล็กๆสักนิดนึงน้า ไปละ ไปหาของกินก่อน เขียนไปนี่หิวมาก อีดอก ทรมานตัวเอง ไปละ ฟิ้ว!!!

ปล. ใครบอกฉันติ่งเกาหลี ไม่มี!!! ไม่ได้เป็นโว้ยยยย อันนยองงงง











วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2559

รสชาติของต้นไม้

                สวัสดีจ่ะ กลับมาอีกครั้งหลังจากห่างไปนานกับการเขียนบล็อก มาดามลีตัวเล็กๆ ไม่ได้หยุดนิ่งที่จะแสวงหาของกินใหม่ๆมาแนะนำให้กลับทุกคน ลียังคง กิน กิน กิน และ กิน อย่างต่อเนื่อง และวันนี้ลีมาอย่างผู้ดี เงียบๆ เนียบๆ นิ่งๆ ชิลๆ ประนึงว่าจิบชาซีลอนยามบ่ายแก่ๆเคล้าคุกกี้เนยหอมกรุ่น...
            เข้าเรื่อง ที่มาของร้านนี้คือ ครั้งนึงลีและเพื่อนผองชาวแก๊งเคยได้รับใบปลิวแจกตอนเปิดร้านนี้เพิ่งเปิดร้านใหม่ๆ แต่ชาวแก๊งของลีไม่ได้สนใจมากมาย มันจุดใต้ตำต่อมาค่ะที่รัก แต่แล้ววันหนึ่งพี่ที่ออฟฟิศของลีได้เผยแพร่อารยธรรมการกินแด่ชาวออฟฟิศ หน้าที่ของลีคือ ไปลองค่ะ ที่ว่าจุดใต้ตำต่อก็เพราะร้านอยู่หลังออฟฟิศของลีเท่านั้นเอง!! คุณพระ...ของดีๆมีอยู่ใกล้ตัว เหตุใดถึงไปตามล่าหาสิ่งที่อยู่ไกลแสนไกล (เอามือทาบอก) วิธีเดินทางคือ BTS ลงสถานี วงเวียนใหญ่ เลยจ่ะ ออกจากทางออกที่ 3 เดินย้อนมาทางกรุงธนบุรี จะเห็นเซเว่นใหญ่ๆติดริมถนน ข้างๆจะมีซอยเลี้ยวเข้าไปตามซอย แล้วเลี้ยวข้าว เดินมาประมาณ 30 เมตร จะเห็น PURE Clinic ร้านจะอยู่ติดกลับคลินิคเลยนะ





            ร้านชื่อว่า “Taste of Trees” ลักษณะของร้าน จะเป็นบ้านเล็กๆ มีต้นหญ้าต้นไม้ไม่เยอะนะ แต่ก็ระดับนึงอ่า หน้าร้านจะจัดเหมือนเป็นสวนนั่งเล่นชิลๆ มีโต๊ะตั้งอยู่ 3 ชุด ร้านจะเน้นสีน้ำตาลและไม้เป็นหลัก ร้านไม่ทึบนะคะ เพราะติดกระจกใสแทบทั้งร้านเลย เข้าไปในร้าน จะมีที่นั่งโซนหน้าร้านอยู่ 2 ที่ บอกก่อนเลยค่ะ ว่าร้านเล็ก เหมาะสำหรับซื้อกลับไปทาน หรือนั่งชิลๆแค่คน 2 คน อย่า ยกขโยงกันมา 5-6 คน เพราะร้านมีพื้นที่จำกัดมากค่ะ







มาต่อ!!! หน้าร้านอย่างที่บอกไปว่ามีที่นั่งเพียง 2 โต๊ะ ซ้ายตัว ขวา ตัว และมีที่เค้าว์เตอร์บาร์สำหรับประมาณ 4 ที่อยู่ด้านซ้ายในสุดของร้าน ด้านขวาสุด จะมีมุมสวยๆอยู่ เน้นโทนเขียวๆครีม ดูอุ่นๆ มีใบไม้ใบหญ้าประดับตกแต่งร้าน ด้านนั้นลีสังเกตุว่าเจ้าของร้านมุงหลังคาแบบโปร่งแสง ทำให้กลางวันมีแสงเข้าร้านโดยไม่ต้องเปิดไฟเลย บวกกลับร้านแต่งโทนสว่างขนาดนี้ เหมาะกับการถ่ายรูปไปเป็นรูปโปรไฟล์ Facebook จริงๆ



เอาหน้าตาของเมนูของร้านมาให้ดูก่อน จะว่าไปร้านมีเมนูอาหารไม่มาก แต่เครื่องดื่มเยอะ ราคาจะถือว่าสูงก็ว่าได้สำหรับบางเมนู เพราะลีเทียบกับ Amazon ที่อยู่ในเลทมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆหาซื้อได้อย่างไม่เดือนร้อน นอกจากเครื่องดื่มจำพวกชากาแฟแล้ว ทางร้านก็มีเครื่องดื่มแอลกอฮอร์จำหน่ายด้วยนะ เลิกงานแล้วใครอยากก๊งก็เอาเลยจ้า


(สั่นไปไหน)


คือจุดพีคของร้านนี้ที่ว่าราคาสูงใช่มะ ทางร้านเลยจัดเป็นชุดๆเอาไว้ให้เลือกกินซึ่ง เห้ย!!! แก มันคุ้มกว่าจริงๆนะ เพราะปกติเวลาลีไปกินอ่า ก็สั่งเป็นชุดมาแล้วเอามาแชร์กันกิน อ่ะ ยกตัวอย่างในรูปเลยแก เซ็ต C จะเลือกเป็น Pasta Olive Chill หรือ Carbonara คู่กับเครื่องดื่ม Vergin Mojito , Honey lemon , Lemon Tea เลือกมาสักเมนูอ่ะ คือปกติ Pasta ราคามัน 200 กว่าแล้ว เครื่องดื่มนี่ก็เลท 80 บาท อัพอ่าแก ถ้าซื้อแกมันก็เกือบ 300 แล้วใช่ปะ แต่เซ็ตนี้สงวนราคาอยู่ที่ 219 บาท ลดไปหลายบาทเลยล่ะ แนะนำนะจ๊ะ ถ้าจะมากินจริงจัง เป็นเซ็ตเถอะแก คุ้มกว่า มันอาจจะมีทางเลือกน้อยแต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดนา...


เอาเมนูเครื่องดื่มมาให้เชยชมกันก่อนประกอบการตัดสินใจ... เมนูแรก ผลพวงจากการซื้อเป็นเซ็ต Honey Lemon จะบอกว่าเปรี้ยว Lemon มากกกกก คือรู้เลยว่าร้านนี้ใช้วัตถุดิบดี แต่คือบับ แก ฉันคนไม่กินเปรี้ยวเว้ย เปรี้ยวตาปิดเลยจ้าแก แต่เราจะได้เห็นความ Nice ของพนักงานร้านนี้ “เขาจะถามเสมอว่าอาหารเป็นยังไงบ้างคะ” “รสชาติถูกปากไหม” “ต้องปรับอะไรหรือเปล่า” คือเราเลยบอกเขาได้ว่าแบบมันเปรี้ยวไปนะ เขาจะปรับรสชาติให้ให้เดี๋ยวนั้นเลยแก คือแบบ ดีย์ เหวยยยย  แต่สุดท้ายก็ยังเปรี้ยวอยู่ดีอ่ะ ฮ่าๆๆ ไม่ว่ากันเพราะเปรี้ยวของเราอาจจะพอดีคนอื่นก็ได้นะ แต่สิ่งที่ขอติงนิดนึงคือด้วยความเป็น Honey Lemon แต่เราไม่ค่อยได้กลิ่นน้ำผึ้งเลย เราอยากให้เพิ่มน้ำผึ้งนิดนึงจริงๆนะ


เครื่องดื่มต่อมาคือ Lemon Tea เราส่งสายสืบไปสืบกรรมวิธีมาละ หึๆๆ ปกติมาดามลีไม่กินกาแฟอยู่แล้ว แต่ฉันเป็นคอชานะ!!! ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าถ้าวันนั้นฉันไม่ได้กินชา!!! อะเฮือก ...คือชามะนาว คือชามะนาวจริงๆแก บ้างร้านฉันไปกินนะเว้ยคือชาลิปตันดีๆนี่เอง นี่ฉันเสียเงินให้กับอะไรเหรอ? แต่ร้านนี้ชาคือชา มะนาวคือมะนาว ความหอมของชาซีลอนมันคลุ้งในปากมากแก ทางร้านจะผสมต่างหากแล้วค่อยเทลงแก้วเสิร์ฟ รสมันค่อนข้างแบบดีย์เลยแก ไม่หวานไป ไม่เปรี้ยวไปด้วย อันนี้ฉันรักเลย


แก้วต่อมาคือโกโก้ รถชาละมุนมากเว้ยอันนี้ เขาชงโกโก้ได้เนียนมาก หาอยากมากนะเว้ย เพราะบางร้านไปกินอ่ะ โกโก้เป็นก้อนอยู่เลย หรือไม่กลิ่นโกโก้ก็แบบอับๆหน่อย แรงสุดคือ ใส่โกโก้มานิดเดียว คือจะหวงทำห่าอะไร!!! ร้านนี้คือโกโก้ได้น้ำได้เนื้อดีมากเลยเว้ย คือสัดส่วนระหว่างโกโก้ นม น้ำ มันอยู่ในอัตตราส่วนที่พอดี ไม่ขมเกินไป หรือไม่ใสเกินไป แถมมีการตกแต่งแก้วเพื่อความฟรุ้งฟริ้งด้วยนะ


มาเริ่มจากหลักกันเลยดีกว่า เรียกน้ำย่อยด้วยสลัด คือมีความผิดพลาดเกิดขึ้นจากการสื่อสารระหว่างพนักงานกับเชฟ ฮ่าๆๆ แก๊งของลีสั่งเป็น ซีซาร์ สลัดไป แต่ตอนเซิร์ฟกลับได้ Tofu Shimaji Salad มา โอ้วมายก๊อด ก็ต้องกินอ่ะค่ะ...ตอนนั้นก็รู้สึกเฟลอ่านะ แต่บับ รสชาติก็ไม่ได้แย่ มันจะความเผ็ดร้อนของพริกไทย ความเปรี้ยวของน้ำส้มสายชู และมีเต้าหู้โปะหน้าอยู่ 4 แผ่น มีเห็นออรินจิเล็กๆ เคล้ากับผักสลัด คือมาดามว่ามันแก้เลี่ยนได้ดีเลยล่ะ


เดี๋ยวจะว่าอย่างงั้นอย่างี้ นี่มีก๊อก 2 นะ เราสั่งซีซาร์อีกรอบ ได้ค่ะ!!!  เราไม่นกนะคะเรื่องกิน มันดีย์มากอ่ะแก สลัดเหรอ เปล่า เบคอน คือบับ เขากิลล์ดีมากเลย กรอบหอม ฉันลืมแคลอลี่ไปเลย เออ พูดถึงสลัดมาตั้งนาน ผักเขาก็สดนะ ดูท่าจะออแกร์นิกซะด้วย สมกับราคาเลย


มา!! เข้าสู่จานหลักดีกว่า เริ่มต้นด้วยซุปคล่องๆคอ อะไรนะแก ซุปผักโขมค่ะ มันโอเคเลยเว้ย คือผักโขมเยอะมาก และรสละมุมของครีมดีมากอ่ะ ปกติแล้วตามร้านทั่วไปเขาจะปันผักโขมจนละเอียดแล้วละเอียดอีก และกระหน่ำครีมเขาไปเวลาทำซุป รสมันเลยออกมาเป็นวิญญาณผักโขม แต่ร้านนี้ไม่เลย ฉันได้เจอตัวตนแห่งผักโขมแล้ว!!! และกินกับขนมปังอบที่โรยหน้ามานะโคตรเข้ากันเลย แต่เสียดายขนมปังน้อยไปหน่อย มีอีกสักปิ๊ปไหม - -?


เมื่อมีซุปผักโขมแล้ว เราก็ต้องมีผักโขมอบชีสสิ!! บอกเลยว่ารสชาติไม่ต่างกัน ให้อารมณ์แบบกินซุปผักโขมที่เพิ่มชีสแค่นั้นเอง อันนี้เสียดายมากยังตีโจทย์ไม่แตก ฮ่าาาา



อีกหนึ่งเมนูที่สร้างความประทับใจไม่น้อยแก่ชาวเราก็คือ...แซนวิชเห็ดชีสค่ะ โอ้วโห้วววว เอดอก ละมุนลิ้มมากค่ะ ขนมปังโฮลวีทปิ้งไฟอ่อนพอให้ได้กลิ่นไหม้ สอดไส้เห็นเห็ดแชมปิญองสไลด์บ้างกับเหล่าชีสทั้งหลาย แกมันดีเว้ยยยย มันหนักท้องดีเว้ย ฮ่าๆๆๆ ฉันชอบกลิ่นขนมปังเวลามันเกรียมนิดๆมันแบบให้อารมณ์เช้าๆดี แม้ว่าฉันจะกินมันในตอนเที่ยงก็ตาม - -



ของเด็ดมันอยู่ตรงนี้ค่ะ มะม่วง ถรุย!!! ไม่ใช่ สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า เว้ย อันนี้บอกเลย คือมันดีย์จริงๆ จากที่เคยเขียนไว้ตอนแรก ร้านที่พัทยา อันนั้นก็ดี แต่นี้ก็ดีอ่ะแก เลือกไม่ถูก คือ 2 ร้าน signature ไม่เหมือนกัน ร้านที่พัทยานั้นเขาจะเน้นไข่ชิปะ แต่ร้านนี้เว้ย ชีส เป็น ชีส จริงๆ มาเป็นดงชีส โอ้ยยยย ฉันรักชีสนางมากบอกเลย ฮ่าๆๆๆๆๆ (หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง) แล้วดูความยืดนะคะ โอ้ววโห้วววววว ลงมาไม่ถึง 5 นาที หมดค่ะ ลีคอนเฟิร์ม เพราะอะไรคะ เพราะลีแย่งแดกไม่ทันค่ะ!!!



สปาเก็ตตี้อีกจานที่ว่าเด็ดไม่น้อย คือ Pasta Olive Oil อันนี้ถ้าใครไม่ชอบความเลี่ยนของชีส เชิญเลยค่ะ เชิญ มีความเผ็ดเล็กๆของพริกปาปริก้าที่โรยมาข้างหน้า แถมเบคอนที่รมควันนะ หอมเข้าเนื้อเข้าหนังมากอ่ะแก



ของหวานปิดท้ายค่ะ ฮันนี่โทส บอกเลยว่า ไม่ผ่าน!!! ขนมปังเหนียวและแห้งมาก ร้านหวงเนยไปหน่อย เราเลยรู้สึกว่ามันไม่ค่อยชุ่มถ้าเทียบกับ After you หรือ Tost 2U ที่เราเคยกิน อันนั้นคือขนมปังเขามีความชุ่มข้างใน กรอบๆข้างนอก แต่ถ้าว่าด้วยเรื่องรสชาติของไอศครีม ก็ถือว่าใช้ได้ การจัดแต่งหน้าตา ลีว่าดีเลยนะ




อ่อแล้วถ้าใครกลัวว่าแบบ น้ำหมดแก้วแล้วอ่ะ เขาก็มีน้ำเปล่าที่ลอยด้วยเลมอนและใบมิ้นท์ตั้งเซิร์ฟอยู่นะ ไปกดเอาได้ตามใจชอบ อันนี้มาดามไม่ได้ถ่ายรูปมาอ่ะ แหะๆ
ส่วนอันนี้ของแถม เป็นชาชนิดต่างๆ ที่ทางร้านตั้งเอาไว้ ก็ไม่ได้ถามนะว่าชงกินฟรีได้หรือเปล่า ฮ่าๆๆๆ

(ชาอู่หลงกลิ่นกุหลาบ)

(น่าจะเป็นชากลิ่นส้ม+มะนาวปะ)

(ชากลิ่นลิ้นจี่)


คือองค์รวมแล้วร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ น้อยคนนักยากจะเข้าถึง แถมราคาค่อนข้างสูง แต่การบริการถือว่ายอดเยี่ยมเลยล่ะ ทางร้านค่อนข้างใส่ใจลูกค้าทุกๆคน คอยรับฟังความเห็นหรือปรับเปลี่ยนตลอดเวลา แต่ยอมใจเชฟร้านนี้ ร้านนี้มีเชฟคนเดียวที่ต้องทำทุกอย่างตั้งแต่สากเบือยันเรือรบ การทำของออกมาให้อร่อยและหน้าตาดูดีระดับโรงแรม เบื้องหลังเขาใช้เชฟไม่ต่ำกว่า 2 คน แน่นอน แต่ร้านนี้ทำทุกอย่างได้ด้วยเชฟคนเดียว อาหารอร่อย หน้าตาของอาหารดูดีและสะอาด คะแนนที่ให้คงเทใจเพราะสิ่งนี้ แต่ก็มีอีกบางเมนูที่ทางร้านอาจจะต้องปรับปรุงต่อไป ยังไงมาดามและชาวเราจะยังอุดหนุนอยู่บ่อยๆ เพราะไม่มีอะไรจะกิน ผิด!!! เพราะของเขาอร่อยจริงๆ วันนี้ มาดามลีขอให้คะแนน อยู่ที่ 8.5 ก่อนแล้วกันนาจา อย่างไร ใครที่อยู่ใกล้ไกลแถวนั้นอยากลองชิมก็แวะไปได้นะ แต่!! จงอย่าลืม ว่าร้านนี้ปิดวันจันทร์นาจา ขอตัวไปหาของกินละ บรัยยยยยย










วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

โปรดีรีวิวต่อ


โอไฮโยวววว อย่าเพิ่งด่าลีนะ กระแดะทักเป็นภาษาญี่ปุ่น ลีไม่ดราม่าๆ ของกินไม่เกี่ยวเนาะๆ T^T วันนี้ลีจะแนะนำอาหารญี่ปุ่นที่รสดีย์ให้ทุกคนไปลองชิมกัน คืองี้ๆ เรื่องมันอยู่ว่าพี่สาวมาดามไปเจอโปรของร้านนี้พอดี แล้วแบบ เห้ยยยย มันถูกเฟ่อร์ เลยลองชวนกันไปลอง บวกกับเสียงลือเสียงเล่าอ้างของพี่สาวคนกลางที่เคยไปกินเช็ตอาหารกลางวันของร้านนี้ ที่ราคา 200 กว่าบาท แต่จุกยันคอหอย...เข้าใจใช่ไหมคะถ้าทำให้แก๊งนี้จุกได้ แสดงว่าไม่ธรรมดา อะห๊าาาาา

ร้าน KAGONOYA สาขา SENA Fest ตามมาเลยจ้า อาจจะไกลจากใครหลายๆคน แต่เห็นมีสาขาอื่นด้วยนะ อย่าง เกษตร-นวมินทร์ ประมาณนี้ ตรวจสอบได้จากลิงค์ของร้านได้เลยนะ เดี๋ยวลีแปะไว้ให้ ^-^




            อย่างที่บอกไปด้านบนว่ามาดามลีกับพี่และเพื่อนมาตามโปร หน้าตาขอโปรก็เป็นแบบนี้ มีทั้งเซ็ตหมูและเนื้อ ราคาก็แตกต่างกันไป มีให้เลือกทั้งแบบ ชาบู หรือ สุกี้ สำหรับคนที่ไม่เคยลิ้มลองเลยและสงสัยว่าความแตกต่างระหว่างชาบูกับสุกี้ต่างกันยังไง มาเดี๋ยวลีจะบอกเล่าให้ฟัง
            เทคนิคการแยกสำหรับลีนะ ...
-          ถ้าเป็นสุกี้ น้ำมันจะเจ้มจ้นกว่า มันจะเค็มกว่า ดำกว่า แล้วเครื่องทุกอย่างจะใส่ลงมาในหม้อเลย
-          แต่ถ้าเป็นชาบู น้ำจะจืดกว่า เพราะบ้างร้านเขาอาจจะมีน้ำจิ้มโชยุ หรือเต้าเจี้ยวมาให้จิ้มกับเนื้อหรือหมู ส่วนผักหรือเครื่องเคียงจะแยกมาต่างหากนะจ๊ะ
...ไม่งงเนาะ ^-^

            วันนั้นลีสั่งเป็นสุกี้หมู 1 เช็ต พี่สาวคนโตของลีก็เช่นกัน ส่วนพี่สาวอีกคน และเพื่อนสั่งเป็นเซ็ตอาหารกลางวัน เดี๋ยวจะมาให้ชมกันหน้าตาเป็นยังไง

            ที่ SENA Fest อ่า หากใครเคยมาเดินจะรู้เลยว่าป่าช้ามาก แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีคนนะ แต่น้อยมากอ่ะแก แต่ไม่น่าเชื่อว่าวันนั้นคนก็เยอะอยู่นะในร้าน ร้านนี้นอกจากมีเช็ตอาหารพวกนี้แล้วยังมี Premium Shabu อีกด้วย ราคาโหดโค่ะๆ 499+ จ้าาาา มีบวกนะจ๊ะ นั้นหมายความว่า มื้อนั้นไม่ต่ำ 500 ถ้าไม่เจ็งจริง ลีบอกผ่านนะคะ 55555 ข้อเสียของร้านคือรอนานมาก ไม่เข้าใจว่าเขาทำอะไรกันอยู่ คือนานจริงนะ ถ้าเป็นเซ็ตอาหารกลางวันที่เพื่อนและพี่สาวเราสั่ง เออ อันนั้นพอจะเข้าใจ เพราะดูเข้าทำสดใหม่ ต้องช้าน ลำเอียงอะไรเบอร์นั้นนนนนน T[]T ตัดกลับมาที่ร้าน อีกอย่างเราว่าพนักงานยังดูงงๆนะ เพราะเราสั่งหมูไปกลับได้เนื้อ ตอนแรกที่เราได้รับอาหารมาเราก็ว่าทำไมหมูมันแด๊งแดง แดงแปลกๆ เราเลยตัดสินใจถามพนักงานกลับไป ปรากฏว่าเป็นเนื้อจ้า เกือบไปแล้วไหมล่ะลีเอ๋ย แต่เขาก็เปลี่ยนให้นะ ยอมรับ service ร้านนี้ บริการดีจริงๆ ไม่มีเหวี่ยงวีน เดินสำรวจตลอด (เขากลัวลีขโมยขวดโชยุเขา) ไม่ใช่!!! คือในเช็ตอาหารกลางวันมันมีรีฟิวน้ำไง เขาเลยเดินเติมน้ำตลอดๆ อีกนิดเดียวนี่จะปูพรมแดงให้ลูกค้าเดินแล้วนะ บริการดีมากเลย




            เข้ามาตอนแรกกับโต๊ะว่างๆ ที่มีแค่กระดาษกับตะเกียบว่างไว้ ข้างๆก็มีโชยุ มีเครื่องปรุงต่างๆว่างไว้เช่นกัน โต๊ะสะอาดดีนะ ถึงจะเป็นร้านชาบู คาบมันใดๆไม่มีเลย






อันนี้หน้าตาเมนูของทางร้านที่มีปกติเลย ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 300 บาท อืมมมม ต้นเดือนถึงกลางเดือนยังพอสู้ไหว ใกล้สิ้นเดือน แนะนำให้จำศีลกินมาม่าอยู่บ้านนะคะ มนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย...T..T





น้ำดื่มเราก็ยังจะถ่ายค่ะ ร้านนี้มีแบรนด์น้ำดื่มเป็นของตัวเอง สงวนราคาอยู่ที่ 20 บาทต่อขวดนะจ๊ะ ราคาเรทปกติของร้านแบบนี้เลยแกรรรร แต่ยังไงแกก็ต้องกินอ่า จะถือโพลาลิตรเข้าไป...มันใช่เรออออออ




หน้าตาอาหารของลีค่ะ สุกี้ยากี้หมู หน้าตาสวยงามตามท้องเรื่อง ราคาเช็ตนี้อยู่ที่ 199 บาท เห็นแบบนี้ อิ่มนะเว้ยยยยย เพราะนอกจากจะมีอีหม้อสุกี้และหมูนั่นแล้ว ยังมีข้าว 1 ถ้วย ซุป 1 ถ้วย และเครื่องเคียงจุ๊นึง เทคนิคการกิน เนื่องด้วยน้ำซุปมันเค็มนะแก เทคนิคของลีคือ ตีไข่ไก่ให้แตก เอาหมูลงไปลวกๆให้สุก แล้วเอามาจุ่มไข่ดิบ แล้วกิน อร่อยมาก ฉันคอนเฟิร์ม แต่ถ้าใครไม่ชอบไข่ดิบๆ ก็ใส่ลงไปในหม้อก็ได้นะ เพราะมันจะทำให้น้ำรสชาติจืดลง (แต่น้ำเค็มจริง) แล้วแต่คนชอบ ลีชอบเข้มๆ



ซุปที่เขาให้มาคือดีมากแก รสชาติกำลังดีเลย ไม่มีกลิ่นเหม็นๆของเต้าเจี้ยวอีกแล้วววว ปลื้มใจอะไรเบอร์นั้น





ในส่วนของข้าว ชามใหญ่สองมือยักษ์ของมาดามโอบค่ะ แต่เปิดมาข้าวมีอยู่ประมาณครึ่งถ้วยนะ จะกระไรก็ช่าง ก็อิ่มค่ะ อิ่มมากกกกก



เครื่องเคียงถามผู้รู้แล้ว เขาบอกว่าคือผักดองเกลือ ไม่เค็มนะ ไม่เค็ม ไม่ต้องกลัว


ในส่วนของเซ็ตอาหารกลางวันที่ว่า ของเพื่อนมาดามก่อน เป็น ข้าวสลัดไก่ทอด เหว่ยยย จะบอกว่าตอนสั่งนางมาจานแรกเลย และนางก็กินไปกวนตีนคนที่ยังไม่ได้อาหารไป เกือบไม่ได้ตายดี ในส่วนของอาหารนาง นางแฮปปี้ นางบอกว่าอิ่มมาก ส่วนสลัดน้ำสลัดก็ดีย์ไม่เปรี้ยวมาก เป็นน้ำสลัดแบบซีซ่าสลัดจ้า มีข้าว ซุป และ ผักดองเกลือเช่นเดียวกันกับของลี สงวนราคาอยู่ที่ 189 บาท




ตัดภาพมากับคนที่ได้ช้าที่สุดในโต๊ะ ข้าวคาราเกะ และซีซ่าสลัด ทุกอย่างเหมือนกับไก่ทอดข้างบนต่างแค่ตัวไก่ที่เป็นไก่คาราเกะ พี่สาวบอกว่า เคี้ยวเมื่อยปากมาก ชิ้นมันใหญ่เวอร์วัง เอิ่ม...ร้านคะ ซอยไก่ถี่ๆกว่านี้ได้ไหมคะ สงสารคนแก่ #เผ่น เช็ตนี้สงวนราคาอยู่ที่ 200 บาท



ข้าว 2 เช็ตข้างบน น้ำเป็นรีฟิวนะจ๊ะ ราคารวมอยู่ในนั้นเรียบร้อยแล้ว ดีย์อะไรเบอร์นั้น ในขณะที่พวกชาบูยังต้องดูดน้ำขวดต่อไป ใจร้าย ลำเอียงที่สุด

โดยรวมแล้วอร่อยดีนะ ฟิน ดี แต่ที่ไม่ฟินเห็นจะเป็นกลิ่นตัว เปลี่ยนเครื่องระบายอากาศใหม่ไหมคะร้าน ชานงชาแนล เพลย์บงเพลย์บอยที่ฉีดไป ได้กลิ่นหม้อไฟออกมาแทน น้ำหอมที่ฉีดแพงนะคะ แพงงงงงง T^T และติดทนด้วยไม่ใช่อะไร (กลิ่นหม้อไฟนะ) จะอย่างไร ทุกสิ่งที่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเราล้วนแล้วให้อภัย เพราะอะไรคะ...เพราะผู้จัดการสาขา หล่อ ^-^ ไปลองชิมดูกันนะจ๊ะ ชิมหม้อไฟนะ ไม่ใช่ผู้จัดการ หยั่มมา!!! จุบุ ครุคริ งุงิ